การแก้กรรม
ปัจจุบันโลกเดือดร้อนวุ่นวาย ผู้คนจำนวนมากหาที่พึ่งทางใจเพื่อแก้ปัญหาชีวิต
จะเห็นได้จากเมื่อมีวัดใดออกวัตถุมงคลที่ไม่ใช่รูปพระแต่เป็นเทพเจ้า เจ้าพ่อเจ้าแม่ รูปสัตว์ในวรรณคดี ที่คิดว่ามีฤทธิ์มีอำนาจ จะมีผู้คนไปเช่าบูชามาด้วยหวังจะพึ่งฤทธิ์พึ่งเดชที่อยู่ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นให้ช่วยให้การดำรงชีวิตของเขาดีขึ้น
ผมเองไม่ปฏิเสธ เทพเจ้าและวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์อำนาจมีจริงครับยืนยัน หลายครั้ง ผมอาศัยท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มาช่วยผม ในการแก้ปัญหาให้กับผู้คนที่มาขอความช่วยเหลือ เพราะบางครั้งไม่เหมาะสมในการขอบารมีจากพระพุทธองค์ลงมาช่วย ผมก็ให้พวกผมขอความอนุเคราะห์ช่วยสงเคราะห์มนุษย์ที่ประสบปัญหาจากเทพหลายองค์ที่มีตัวตนอยู่จริง ทั้งในสวรรค์และพรหมรูปร่างท่านสวยงามกว่าที่คนเขาปั้นไว้บูชาอีก ท่านทั้งหลายเหล่านั้นล้วนสร้างบุญกุศลและปฏิบัติจนได้ฌานสมาบัติ เกิดฤทธิ์มากมาย ท่านเหล่านั้นมีศีลที่สมบูรณ์ ผู้คนไม่ควรเอาร่างสัตว์ หัวสัตว์ เลือดสัตว์ไปบูชาท่าน ท่านรังเกียจครับ เวลาผมขอการสงเคราะห์จากเทพนั้นผมเอาบุญถวายเป็นการตอบแทนทุกครั้ง ซึ่งท่านยินดีมาก เพราะบุญเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกทิพย์ไม่ใช่เครื่องเซ่นสังเวย หรือการละเล่นแก้บน สู้บุญไม่ได้หรอก จงทราบว่าในโลกนี้ไม่มีการขอกันฟรีๆ หรอกครับ เทพทั้งหลายท่านก็ไม่คิดเอาบุญบารมีของท่านมาแจกใครหรอก ทุกอย่างมีสิ่งแลกเปลี่ยน จะสะดวกมากจริงๆ เราขอความอนุเคราะห์จากฤทธิ์ของเทพ เราก็ถวายบุญเป็นการตอบแทน ยุติธรรมดีนะครับ
เราขอบารมีฤทธิ์จากเทพมาช่วยเราได้แต่ไม่เกินกฎแห่งกรรมนะครับ มันต้องเจ้าตัวสร้างบุญไว้เป็นทุนด้วย เทพทั้งหลายจึงจะสามารถช่วยได้ง่าย ไม่ใช่เอาแต่อ้อนวอนขอๆๆๆ จากท่าน แต่บุญทานไม่ทำเลยใครเขาจะช่วยได้ จากคำสอนของสมเด็จโต กล่าวไว้ว่า
“บุญพวกเจ้าทำกันไม่เป็น พอเคราะห์กรรมเข้ามา จะเอาบุญที่ไหนมาช่วยเจ้า”
“กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง”
อ่านดูแล้ว ดีมากๆ เลยหลวงปู่โต เทศน์ไว้ตรงดีมาก กลับเข้ามาเรื่องการแก้กรรมต่อดีกว่า ปัจจุบันข่าวสารไปได้เร็ว หนังสือก็มีมาก ผมได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการ
แก้กรรมของท่านผู้เป็นแม่ชีก็มี ที่เป็นฆราวาสที่ปฏิบัติธรรมก็มี สาธุ ประชาชนตาดำๆ ที่ทุกข์ยากมากมายเหลือเกินมุ่งไปหาที่พึ่งการแก้ปัญหาชีวิตจากท่านเหล่านั้น จนขนาดต้องมีบัตรคิวในการเข้าพบ ขออนุโมทนาต่อการสร้างบารมีช่วยคนด้วยฌานสมาธิ และกสิณไฟที่ท่านนำมาช่วยเปิดกรรมและบอกวิธีการแก้ไขให้กับคนที่ประสบทุกข์ทั้งหลาย นำไปปฏิบัติเพื่อการพ้นจากทุกข์นั้นๆ ถ้าผู้ที่ปฏิบัติหลายๆ ท่านที่ได้ฌาณสมาบัติสามารถช่วยคนได้ รู้กรรมและวิธีแก้กรรมให้คนที่ทุกข์ยากทั้งหลาย ยอมเปิดตัวออกมาช่วยคนบ้างก็จะดีหรอก แต่ส่วนใหญ่ท่านปกปิดตัวเอง
แล้วผมล่ะก็คนธรรมดา ที่ทำมาหากินไปวันๆ แต่ได้พยายามศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนา และโลกวิญญาณมาพอสมควร จนพอมีความรู้วิธีแก้กรรมให้กับตัวเองได้ และพยายามบอกเล่าวิธีการนี้ให้กับคนที่สนใจลองนำไปทำดูด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องให้ใครช่วยเหลือ พูดเล่าบอกให้ใครฟังมันก็มีผล 2 อย่าง ส่วนหนึ่งเชื่อลองนำไปทำจนได้ผลและไม่ได้ผล ขึ้นอยู่กับความพยายามและตั้งใจในการแก้ไขของแต่ละคน แต่อีกส่วนหนึ่งแสดงอาการยิ้มทางสายตา แสดงถึงความรู้สึกที่ไม่เชื่อและคิดว่าผมงมงายอยู่กับเรื่องโลกวิญญาณ สมัยนี้เจริญแล้ววิทยาศาสตร์เจริญมากแล้ว นักบินอวกาศไปนอกโลกแล้วไม่เห็นจะมีสวรรค์ที่ไหนเลย ครับผลที่ได้รับก็มีทั้งสองอย่างคือบวกและลบ ก็ไม่ว่ากัน นานาจิตตัง ที่ผมพูดหรือเขียนนี่ก็เคยบอกไว้ว่า อ่านแล้วอย่าเชื่อเลยทันทีให้วิเคราะห์สังเคราะห์ หาเหตุผลหาทางพิสูจน์เอาเอง ถ้าใช่จึงเชื่อ กลับมาเรื่องกรรมตามที่ผมรู้ มีวิบากกรรมอยู่ 2 แบบ
- 1. กรรมที่มีนายเวรติดตามมา นายเวรนี้ส่วนใหญ่ที่พบเป็นสัมภเวสีเป็นทั้งชายและหญิง ซึ่งเดิมเขาอาจเป็นคนหรือสัตว์ก็ได้ ที่เราทำร้ายเขาไว้ทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้เขาแค้นจนเมื่อเขาตายไป ดวงจิตแค้นจึงติดตามมาจองเวร หาทางทำร้ายเรา เขามาทำร้ายเราตามคิวเหมือนทหารเข้าแถวเรียงหนึ่งมา กระทำเราทีละหนึ่งคน นายเวรของแต่ละคนมีเป็นล้านคน ก็เกิดตายมาหลายชาติกันทั้งนั้น เขาติดตามข้ามชาติมาเลย ทำไมนายเวรเยอะจัง ก็เอาแค่ชาติปัจจุบันท่านฆ่าสัตว์ไว้กี่ตัวล่ะ เช่น มด ยุง นับได้ไหม สัตว์อื่นอีกต่างหากนะยังไม่ได้นับ เห็นไหมว่าเยอะมาก
คนทั่วไปชอบถามว่าเขามีนายเวรมากระทำไหม ตอบได้เลยมีทุกคน 100% ส่วนจะทำร้ายเราได้แค่ไหนนั่นอยู่ที่พลังและความแค้นของเขาที่เป็นนายเวรอย่างน้อย เช่นมาทำให้คันก็พอใจแล้วก็มี แต่ที่แค้นมากมีพลังมาก เอากันให้เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุถึงตายก่อนอายุขัยก็มี เรียกว่า อุปฆาตกรรม เขามีสิทธิ์ทำเราได้
ผู้ที่ไปหาผู้ทรงฌานตรวจสอบดูกรรมก็จะพบกับนายเวรที่มาถึงตัว และลงมือกระทำเรา สามารถเจรจาแก้ไขต่อรองทำบุญอุทิศให้ตามตกลง คนเราคิดว่าจบแล้ว นายเวรหมดแล้วแต่จริงๆ เปล่าเลย นายเวรที่ผู้ทรงฌานติดต่อและเจรจาให้ทำบุญให้จนอโหสิกรรมเข้าไปแล้ว นายเวรรายต่อไปก็เข้ามากระทำต่อเราตามคิวของเขา
เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะไปรบกวนให้ใครตรวจกรรมให้เราทั้งหมดย่อมเป็นไปไม่ได้ ผมจึงไม่ค่อยใช้วิธีเจรจากับนายเวรโดยไม่จำเป็นแต่ใช้วิธีให้ทำบุญอุทิศ เบิกบุญอุทิศให้นายเวรที่มาถึงตัวทุกวันเลย วันละหลายๆ ครั้งยิ่งดี คนที่เจ็บป่วยหรือประสบเคราะห์กรรมอื่นๆ หนักอยู่ต้องยิ่งเบิกบุญให้นายเวรที่มาถึงตัวมากๆ เป็นร้อยเป็นพันหนต่อวัน ทุกอย่างจะดีขึ้นจนผิดธรรมดา การเบิกบุญคือเราเบิกเอาบุญที่ทำไว้มาให้นายเวรที่มาถึงตัว ไม่ต้องนั่งตั้งท่าหรอก มีงานก็ทำไปตามปกติแต่ใจคิดเหมือนภาวนา “ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญขอข้าพเจ้าลงมาส่งถึงนายเวรที่มาถึงตัวข้า” คิดอยู่อย่างนั้นเป็นร้อยเป็นพันหนต่อวัน นายเวรที่มาถึงตัว ได้รับบุญจนพอใจก็ละจากเราไป รายใหม่ก็เข้ามาแทน ทั้งชีวิตเรานี้เราใช้หนี้นายเวรได้ไม่หมดทุกรายหรอก มันเยอะมากๆ แต่เมื่อมีบุญให้เขาชดใช้หนี้เขา เขาจะไม่ทำอะไรเราเพียงแต่รอเวลาเข้ามารับบุญใช้หนี้เท่านั้น ก็มียกเว้นนายเวรรายที่แค้นสุดขีด บุญให้เท่าไรก็ไม่รับ จะเอาให้เจ็บให้ตายสถานเดียวก็มีนะครับ
ถ้าเราอุทิศบุญให้นายเวรทุกวันแล้วยังเกิดเหตุไม่ดีกับเราอยู่อีก อาจจะต้องหาผู้ทรงฌานติดต่อนายเวรเพื่อเจรจาดูความต้องการว่าต้องการอะไร อีกจึงจะหายแค้นเหมือนที่ผมและพวกของผมทำกันอยู่ เมื่อเขาได้ในสิ่งต้องการแล้ว ทุกอย่างก็ดีขึ้น
แต่มีนะครับ บางรายติดต่อนายเวรเจรจาอย่างไรก็ไม่ยอมจะกระทำจนตายให้ได้ แบบนี้แค้นสุดขีดจริงๆ ผมก็จะแนะนำให้ผู้ที่ป่วยหรือลำบากนั้น ใช้วิธีตื้ออุทิศบุญและขออภัยไม่จองเวร ทำบ่อยๆ ให้เขาใจอ่อนแล้วหยุดจองเวรไป เช่น
“ขออุทิศบุญให้นายเวรที่ทำให้ข้าเป็นมะเร็งที่หน้าอกอยู่นี้ ขออภัยในสิ่งที่เคยล่วงเกินท่านไว้ ถึงท่านจะทำให้ข้า……..เจ็บป่วย ข้า…….ขออโหสิกรรม ไม่คิดจองเวรกับท่านขอให้ท่านจงเป็นสุขๆ เถิด”
อุทิศบุญแล้วอธิษฐานอย่างนี้บ่อยๆ เดี๋ยวก็ใจอ่อนยอมละไป แต่มีนายเวรบางรายยังไม่ยอมอีก ติดต่อผู้ทรงฌานเจรจาก็แล้ว อุทิศบุญขออภัยให้ก็แล้ว ใช้เวลาทำอยู่นานแล้ว พอกลับไปให้ผู้ทรงฌานตรวจสอบดู ก็ยังเป็นนายเวรเจ้าเดิมไม่ยอมละทั้งที่ให้บุญจนมากมายแล้ว ใช้วิธีใหม่ของความเป็นธรรมจากโลกวิญญาณให้อธิษฐานดังนี้
“ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ขอให้เสียงของข้าพเจ้าดังถึงองค์พญายมราช ผู้ปกครองแดนนรกภูมิ บัดนี้มีวิญญาณนายเวรของข้าพเจ้าผู้หนึ่งได้กระทำให้ข้าพเจ้าป่วยอยู่นานแล้ว ได้พยายามอุทิศบุญให้มากมาย อีกทั้งขออภัย ขออโหสิกรรม ปรากฏว่าวิญญาณนายเวรผู้นี้ไม่ยอมเลิกกระทำข้าพเจ้า ขอองค์พญายมราชโปรดส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นมาจัดการให้ความเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”
ความยุติธรรมในโลกวิญญาณนั้นเที่ยงตรงกว่าโลกมนุษย์มากนัก เมื่อเราอธิษฐานร้องขอด้วยอำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสียงของเราดังถึงพญายมราชจริงๆ ครับ พญายมราชท่านจะพิจารณาส่งผู้ตัดสินให้ความเป็นธรรมกับเราขึ้นมาจัดการให้เอง ถ้าบุญที่เราให้คุ้มกับความแค้นของนายเวรแล้ว นายเวรจะถูกบังคับให้รับ จะขัดขืนไม่ได้ จำต้องละจากเราไป
แปลกดีไหมครับ! อ่านไปคิดพิจารณาดูด้วยนะครับ ดูเหตุผลด้วย คิดว่าควรจะทำตามดีหรือไม่ อยู่ที่ผู้อ่านพิจารณา
- 2. กรรมที่ไม่มีนายเวร เคยตรวจสอบแก้กรรมของบางท่านหาตัววิญญาณนายเวรไม่พบ เรียกว่าเป็นวิบากกรรมจากอดีตตามมาส่งผล เช่น เคยทุบตีพ่อแม่ แต่พ่อแม่ไม่คิดจองเวร ส่วนกรรมนั้นยังอยู่ครับ ไปทุบพระพุทธรูป พระพุทธเจ้าไม่จองเวรใคร แต่กรรมยังอยู่ ขายสุรามันเป็นมิจฉาอาชีพ ไม่มีใครมาจองเวร แต่กรรมยังอยู่ครับ หรือเคยฆ่าสัตว์ไว้ ตอนแรกรอจองเวรอยู่แต่เขาอโหสิกรรมไปเกิดแล้ว ส่วนกรรมที่ต้องชดใช้ยังรอเราอยู่ ลึกลับซับซ้อนมากครับเรื่องโลกวิญญาณผมเองก็รู้แค่บางส่วนเท่านั้น ยังมีท่านที่ทรงฌานหลายท่านรู้ละเอียดแต่ท่านไม่พูด เพราะถ้าพูดแล้วผลสะท้อนกลับมีทั้งบวกและลบ ผมเองรู้ไม่มากแต่อยากบอกกับคนที่ไม่รู้หรือรู้น้อยให้ได้รับรู้บ้าง ใครจะคิดจะมองอย่างไรช่างเขา รู้แต่ตั้งเริ่มเขียนแล้วว่าต้องมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ ทำใจไว้แล้ว ถ้าผมไม่บอกใคร ความ
ลี้ลับในโลกวิญญาณผลของบุญและบาปก็ไม่มีใครเปิดเผยให้ผู้คนได้รับรู้ ความเชื่อมั่นศรัทธาปฏิบัติในพระพุทธศาสนาก็จะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ เพราะคนไปหลงศรัทธาอยู่กับอิทธิฤทธิ์ไม่สนใจกรรมฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ผมเองไม่ใช่ภิกษุจึงไม่มีกรอบของวินัยสงฆ์มา
ปิดกั้น ลี้ลับ อัศจรรย์ ก็เขียนไปตามที่พบ ยกเว้นบางอย่างมันเฉพาะตนจริงๆ เปิดเผยไม่ได้ก็ไม่เขียนซะ
ทีนี้จะแก้ยังไงดีล่ะ กรรมที่ไม่มีนายเวร ก็ไม่มีใครมาเจรจากับเรา ใหม่ๆ ที่พบมึนตึ๊บเลยครับไม่รู้จะแก้ยังไงดี เมื่อหมดทางก็ให้พวกผมกราบทูลถามวิธีแก้ไขจากผู้อยู่สูงสุดเบื้องบน ได้รับคำตอบมาเป็นวิธีแก้ไขดังนี้ครับ
- พยายามสร้างบุญทั้งทาน ศีล ภาวนา ให้มากเพื่อหนีไม่ให้กรรมตามทัน
- ถ้าเจ็บป่วยหรือประสบเคราะห์กรรมใดๆ ให้ขอท่านผู้มีฤทธิ์ในโลกวิญญาณช่วยเหลือหรือรักษาด้วย โดยเราอุทิศบุญถวายเป็นการตอบแทน เช่น “ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้เสียงขอข้าพเจ้าดังไปถึงปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ ขณะนี้ข้าพเจ้าเจ็บป่วยเป็น……….ขอปู่โปรดช่วยรักษาอาการป่วยให้ข้าพเจ้าด้วย” หลังจากนั้นเราก็หมั่นอุทิศบุญถวายให้ปู่ ดีกว่าเราไปจุดธูปเทียนถวายพวงมาลัยอ้อนวอนขอให้ท่านช่วย
- อุทิศบุญให้เทวดาและทุกท่านที่รักษาตัวเรา ขอให้ท่านช่วยรักษาอาการป่วย
ด้วย
การเจ็บป่วยกายเนื้อ เราก็ต้องรักษาด้วยยานะครับ ส่วนกายทิพย์จะรักษาด้วยพลังปราณของผู้อยู่ในโลกทิพย์ เมื่อกระทำดังนี้อาการป่วยหรือเคราะห์กรรมนั้นจะบรรเทาลงได้เร็ว การคิดวิธีนี้เราสามารถประยุกต์พลิกแพลงใช้ได้ตามสถานการณ์ที่ประสบโดยใช้บุญของเราเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหา
การติดต่อกับวิญญาณนั้น ส่วนมากเราจะเห็นเขาใช้ธูปจุดเพื่อติดต่อ แต่จริงๆ แล้วกระแสจิตคือผู้ที่ติดต่อตัวจริง ผมเองไม่ใช้ธูปเทียนเลย แต่ถ้าใครเคยใช้ธูปเทียนแล้วสบายใจก็สามารถใช้ได้ไม่ผิดอะไร
ประสบการณ์ต่างๆ ที่นำมาเขียนนี้ผมกับพวกผมซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยตัวได้ประสบมาและใช้วิธีการอุทิศบุญที่ได้เรียนรู้จากแผ่น VCD ของหลวงพ่อเกษม วัดป่าสามแยก อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์นำมาแก้ปัญหาได้มากมาย ส่วนการติดต่อวิญญาณต่างๆ อาศัยพวกของผมที่ฝึกมโนมยิทธิได้เต็มกำลัง จากวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานีทำการติดต่อกับวิญญาณต่างๆได้ เมื่อติดต่อกับวิญญาณทั้งเทพ ผี เปรต อสุรกาย สัตว์นรก ผมก็ได้ความรู้จากโลกวิญญาณนำมาประยุกต์ต่อยอดวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ได้มากมาย จนคิดว่าต้องนำมาเขียนเปิดเผยให้พุทธศาสนิกชนได้รู้ถึงความเป็นไปของกฎแห่งกรรม ผลของบุญกุศล วิธีอุทิศบุญแก้กรรม ดีกว่าที่ผมจะรู้ไว้คนเดียว และตายไปกับตัวผม หวังว่าความรู้นี้ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานล่างสุดของพุทธศาสนา จักเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้อ่านและนำไปพิสูจน์ผลในทางปฏิบัติ หากทดลองทำอย่างจริงจังแล้วระยะหนึ่ง ถ้าได้ผลขอท่านจงเผยแพร่เป็นธรรมทานกับผู้ไม่รู้ด้วยเถิด แต่ถ้าทดลองทำแล้วอย่างตั้งใจและจริงจังจนที่สุดแล้วไม่ได้ผล ขอท่านจงลืมความรู้นี้เถิดอย่านำไปเผยแพร่ออกไปเลย
ท้ายนี้ขอธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงสถิตอยู่ในดวงจิตของท่านผู้อ่านทุกท่าน ตลอดกาลเทอญ
วันหนึ่งข้างหน้าเราตายแน่นอน สร้างบุญไว้เถิด และเมื่อสิ้นชีวิต ให้เลือกรับผลของบุญขึ้นไปอยู่สวรรค์หรือพรหมตามกำลังบุญ แล้วให้ปฏิบัติต่อหนีกรรมให้พ้น จนสุดท้ายถึงนิพพาน
ตนเป็นที่พึ่งของตน จงใช้ผลบุญที่ตนมีแก้ปัญหาของตนเอง ………………………..คนธรรมดา
อาจารย์ภณทัต แสนสัมฤทธ์
คนเคลียร์กรรม