ช่วยเหลือผู้ถูกกระทำทางเวทย์มนต์
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2554 หลังจากผ่านวันพระมา 1 วัน ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ผมเองต้องประสบเหตุกับไสยเวทย์ ทำให้ผมต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากการประสบกับ
ไสยเวทย์ ในตอนกลางวันผมได้คุยกับพี่ที่มาร่วมปฏิบัติกับผม ระหว่างคุยผมได้สังเกตว่าตัวแกมีอาการแปลกๆ อาการที่ว่าคือดวงตาที่มีแววเป็นประกายก็เป็นประกายน้อย ดวงตาเหม่อลอย รอบตาสีดำคล้ำ ตอนนั้นผมไม่แน่ใจว่าพี่เขามีอาการอะไรกันแน่จนมาถึงตอนที่ผมพูดคุยกันลูกศิษย์ที่ผมฝึกสมาธิให้ว่าเมื่อตอนกลางวันได้พูดคุยกับอาจารย์เขาหรือเปล่า คำตอบก็คือได้คุย แล้วได้สังเกตอาการของอาจารย์เขาหรือเปล่า คำตอบคือสังเกต แต่ที่สังเกตเพิ่มก็คือมีดวงวิญญาณผู้หญิงติดตามเขาด้วย ผมบอกว่าไม่ได้สังเกตลึกขนาดนั้น แต่นี่ก็แสดงว่าเรามีความคิดตรงกัน คือเขาโดนของแน่ เราต่างคนต่างคิดอย่างนั้น เมื่อตกเวลากลางคืน ผมโทรไปคุยกับพี่เขาแล้วเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่าตัวพี่มีปัญหาโดนของแน่ พี่เขาถามว่าจะทำอย่างไรต่อดีผมจึงบอกพี่เขาว่า พี่ขอบารมี
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นเกราะคุ้มกายนะ เพื่อป้องกันไสยเวทย์ที่จะมาทำร้ายร่างกายผมเองพูดได้เท่านั้นฉับพลันพลังของไสยเวทย์กลับตามดวงจิตของผมมา ผมกลับมีอาการผื่นขึ้นตรงบริเวณข้อพับทั้งแขนซ้ายและแขนขวา ผมรีบถอนจิตจากพี่เขาในทันที ต่อจากนั้นผมรีบกำหนดจิตเพื่อป้องกันตนเอง หลังจากกำหนดจิตเป็นเกราะเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่สัมผัสได้ก็คือวิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่งติดตามมาด้วย ผมพบดังนั้นจึงหยิบมีดหมอออกมา รีบชักมีดหมอออกมาจากฝักแล้วนำมีดหมอมาสัมผัสตรงบริเวณที่ผื่นขึ้น ผมได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องออกมา ผมจึงรีบตัดสินใจนำมีดออกมาจากบริเวณแขนโดยในใจนึกว่า เขาทำตามคำสั่งของคนอื่น เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะมาทำร้ายเรา และอีกอย่างเขาคงมาทำร้ายเราไม่ได้ เพราะเรามีเกราะป้องกันอยู่ แทนที่จะโกรธเธอผมกลับสงสารเธอ จึงคิดหาวิธีที่จะช่วยเธอ เพื่อให้เป็นอิสระจากการถูกบังคับ
เมื่อคิดที่จะช่วยเขาแล้วก็ต้องช่วยให้ได้ ผมจึงอธิษฐานเพื่อมลายมนตร์อาคม ว่า “ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้ดวงวิญญาณดวงนี้หลุดพ้นจากอาคมด้วยเทอญ” ปรากฏเป็นลำแสงสีทองจากฟ้าส่องลงมายังวิญญาณดวงดังกล่าว ผมสังเกตไปที่ดวงวิญญาณของหญิงคนนั้นเธอมีอาการดีขึ้น แต่ก็ยังมีสภาวะเป็นสัมภเวสีอยู่ ผมยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงอธิษฐานอีกครั้ง โดยครั้งนี้อุทิศให้กับหญิงคนนั้น
“ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังวิญญาณดวงนี้ด้วยเทอญ” ก็ให้ปรากฏแสงสว่างสีทองส่องมายังตัวเธอ ตัวเธอกลับกลายสภาพไปในทางที่ดีขึ้น สวมใส่ชุดสีขาวดูสะอาดตา ผมจึงตั้งสมาธิจิตเพื่อขอคุยกับเธอ
ผม : สวัสดี เราขอถามชื่อเธอได้ไหม
สวย : สวัสดี เราชื่อสวย
ผม : เธอมาที่นี่ได้อย่างไร
สวย : เขาส่งฉันมาให้มาทำร้ายคนอีกคนหนึ่ง พอดีเธอส่งจิตออกมาเพื่อช่วยเหลือเขา เราเลยตามดวงจิตของเธอมา เพราะเขาสั่งไว้ว่าหากใครมาช่วยเหลือคนคนนี้ให้ฉันติดตามไปทำร้ายคนที่มาช่วยเหลือ
ผม : ใครสั่ง
สวย : หมอผี
ผม : แล้วเธอเป็นคนที่ไหน
สวย : เราเป็นคนภาคอีสาน
ผม : แล้วเธอตายอย่างไร
สวย : เราเกิดอุบัติเหตุตาย
ผม : งั้นเธอก็ตายโหงน่ะสิ
สวย : ใช่แล้ว
ผม : เธอตายนานหรือยัง
สวย : ก็ประมาณ 3-4 ปีมาแล้ว
ผม : เขานำเธอมาเป็นบริวารได้อย่างไร
สวย : เขาไปตรงที่เราตายแล้วใช้อาคมสะกดเราให้เราตามเขามา
ผม : แล้วญาติไม่นำพระมารับตัวไปหรือ
สวย : ญาติมารับทีหลัง เขามานำตัวเราไปแล้ว ญาติถึงมารับเรา
ผม : แล้วเธอเคยทำร้ายคนอื่นมาก่อนไหม
สวย : เคยทำมาแล้ว ทำให้เขาป่วยจนตายมาก่อน
ผม : แล้วไม่กลัวบาปหรือ
สวย : กลัว แต่ตอนนั้นคิดว่าเขาใช้เรามาเราไม่ได้ตั้งใจต้องทำตามคำสั่งคนผิดเลยไม่น่าจะเป็นเรา อีกอย่างเราถูกบังคับเราไม่สามารถขัดขืนได้
ผม : ตอนนั้นเขาเลี้ยงดูเธออย่างไร
สวย : วันไหนเป็นวันพระ เขาจะเอาข้าว กับข้าว ขนมมาเลี้ยง หากวันไหนเป็นวันพระใหญ่เขาจะเลี้ยงด้วยเนื้อสดเลือดสด
ผม : ไม่กลับไปหาเขาหรือ เพราะเราไม่มีเนื้อสด เลือดสดเลี้ยงนะ เรามีแต่บุญให้เท่านั้นนะ
สวย : โอ๊ย ! ไม่ไปหรอก อยู่ที่นี่สบายกว่าตั้งเยอะ คำว่าแค่บุญของเธอน่ะ สำหรับเรามันมีค่ามากเกินจะอธิบายได้เลยนะ
ผม : ตอนนี้เธออายุเท่าไหร่
สวย : ตอนตายอายุ 30 ปี มาตอนนี้อายุประมาณ 34 ปีเห็นจะได้
ผม : แก่กว่าเราอีก งั้นก็ยังคงไม่หมดอายุ
สวย : ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่รู้จะไปไหน
ผม : ถ้าเช่นนั้น อยู่ที่นี่ก็ได้
สวย : เราอยู่ได้หรือ
ผม : ได้สิ อยู่กับคนที่เขามาจากที่เดียวกับเธอก็ได้ เขาคงไม่ว่า
สวย : ถ้าอย่างนั้น เขาอยู่ที่ไหนล่ะ
ผม : อยู่บริเวณนี้แหละ
สวย : ก็ได้
ผม : ถ้าเช่นนั้น อยู่เสียที่นี่
สวย : ขอบใจเธอมากที่ช่วยเรา
ผม : ไม่เป็นไร อย่าทำร้ายเราอีกก็แล้วกัน
สวย : ไม่แล้ว ขอบใจนะ
ผม : ไม่เป็นไร อย่าลืมปฏิบัติด้วย จะได้อยู่ภพภูมิที่ดี เอาละเราเลิกติดต่อแค่นี้นะ เดี๋ยวมีโอกาสคงได้คุยกัน
หลังจากผมได้คุยกับเธอทำให้ผมได้รู้ว่านรกกำลังรอคนที่ใช้ไสยเวทย์ในทางที่ผิดเสมอ หนีอย่างไรก็ไม่มีทางพ้นถ้าถามว่าผมถูกกระทำด้วยไสยเวทย์อย่างมากมาย ผมโกรธไหมบอกตามตรงเลยว่าโกรธและโกรธมากด้วย แต่เมื่อมานึกดูเขาต้องรับคำสั่งจากคนจ้าง ทำให้ผมสงสารมากกว่าโกรธเพราะอะไรหรือก็เพราะเขาทั้งคู่ต้องพากันลงนรกอย่างแน่นอนแล้วความผิดไม่ต้องสอบสวนด้วย คนที่จะลงนรกก่อนเป็นคนแรกก็คือคนจ้าง ส่วนหมอผีผู้รับคำสั่งหากตายพร้อมสมาธิจิตก็ไปเป็นบริวารของมาร หากเป็นการทำสมาธิแบบไสยเวทย์แต่หากตายโดยขาดสติ ผมบอกได้เลยว่านรกอย่างแน่นอนไม่ต้องคิดให้ปวดหัว แล้วคิดดูเอาเถิดว่าจะต้องโดนอะไรบ้างเมื่อลงนรก ผมเองคนหนึ่งครับที่ไม่เอาด้วย มันทรมานนานเหลือเกิน
………………………………..
อาจารย์ภณทัต แสนสัมฤทธ์
คนเคลียร์กรรม